สังคัง

รวม 6 เรื่องน่ารู้ของ “สังคัง”

                สาเหตุสำคัญตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่ทำให้เด็กผู้ชายมักจะโดนล้อเลียนให้อับอาย คือ การเป็นสังคัง (Tinea Cruris) หรือโรคผิวหนังที่ชอบเป็นตรงขาหนีบ ซึ่งบางครั้งอาจจะยังทันไม่ได้เป็นโรคนี้ แค่มีอาการคันขาหนีบ จนต้องเกาเรื่อย ๆ ทั้งวัน เพื่อนก็ล้อว่าเป็นโรคและไม่ค่อยกล้าเดินไปไหนมาไหนด้วยแล้ว แต่ในความจริง สังคังไม่ได้มีอาการบ่งชี้แค่อาการคัน หรือเกิดขึ้นแค่กับเด็กผู้ชายเท่านั้น อีกทั้งยังไม่ใช่เรื่องน่าอายอย่างที่คิด เพราะหากเป็นขึ้นมาก็สามารถรักษาให้หายได้ไม่ยาก 

                เพื่อเป็นการเปลี่ยนมุมมองใหม่ที่มีต่อโรคผิวหนังประเภทนี้ บทความนี้จะชวนคุณมาทำความรู้จักกับ “สังคัง” ในแง่มุมต่าง ๆ ให้มากขึ้น พร้อมเรียนรู้วิธีป้องกัน ดูแล และรักษา ที่ทำตามได้

สังคังคือโรคจากเชื้อรา

                สังคังเกิดจากเชื้อรากลุ่มเดอร์มาโทไฟต์ (Dermatophyte) ซึ่งเป็นเชื้อราเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคกลากที่ผิวหนังนอกร่มผ้า ชันนะตุที่ศีรษะ และฮ่องกงฟุตที่เท้า โดยสังคังจะเกิดที่บริเวณขาหนีบ แต่บางครั้งก็อาจลามไปถึงผิวหนังใกล้เคียงอย่างอวัยวะเพศ และร่องก้นได้

เชื้อราเดอร์มาโทไฟต์ก่อตัวได้จากหลายสาเหตุ

                สาเหตุที่ทำให้เชื้อราเดอร์มาโทไฟต์เกิดขึ้นตรงขาหนีบและผิวหนังบริเวณใกล้เคียง ได้แก่

  • การที่ความอับชื้นที่เกิดขึ้นได้ง่ายกว่าผิวหนังส่วนอื่น เพราะอยู่ลึกถึงใต้ร่มผ้า ซึ่งคนเราไม่สะดวกที่จะซับน้ำหรือเหงื่อบริเวณนั้นได้บ่อย ๆ
  • การใส่เสื้อผ้ารัดเกิดไป จนอากาศไม่ถ่ายเท
  • การใช้ของใช้บางอย่างร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดตัว กางเกงใน
  • การมีเพศสัมพันธ์กับผู้เป็นโรคสังคัง

สังคังเป็นได้ทั้งในหญิงและชาย

                คนทุกเพศสามารถเป็นสังคังได้ แต่ที่ผ่านมาพบว่าเป็นในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง เพราะสรีระร่างกายและไลฟ์สไตล์ของผู้ชายเอื้อต่อการเกิดเชื้อรามากกว่า ทั้งอัณฑะที่อยู่ใกล้ขาหนีบ และการชอบเล่นกีฬา ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง การใส่กางเกงตลอดทั้งวัน แต่ละเลยการซับเหงื่อตรงขาหนีบ

อาการของสังคังไม่ได้มีแค่ ‘คัน’

            ไม่ปฏิเสธว่าอาการหลัก ๆ ของสังคังคืออาการคัน แต่ก่อนที่จะตัดสินว่าคนที่เกาขาหนีบทั้งวันเป็นสังคัง ก็ควรที่จะรู้ด้วยว่ามันยังมีอาการบ่งชี้อื่น ๆ อีก เช่น มีผื่นแดงที่มีขอบเขตชัดเจน อาจจะเป็นที่ขาหนีบข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้ ซึ่งที่ขอบเขตนั้นอาจมีตุ่มเกิดขึ้น และในบางครั้งจะมีผิวลอก แตก หรือเป็นขุยร่วมด้วย

สังคังรักษาได้ง่ายกว่าที่คิด

                เมื่อเป็นสังคัง วิธีการรักษาที่ง่ายที่สุด คือ การทายาฆ่าเชื้อรา เช่น ใช้ซีม่าครีม (Zema Cream) ที่มีตัวยาโคลไทมาโซล (Clotrimazole) เป็นประจำวันละ 2-3 ครั้ง ต่อเนื่องประมาณ 4-6 สัปดาห์ (ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค) หรือใช้ซีม่าโลชั่น (Zema Lotion) โดยใช้สำลีชุบแล้วทาบาง ๆ วันละ 1 ครั้ง เป็นต้น

                ควบคู่ไปกับการทำความสะอาดผิวหนังในร่มผ้า งดเกา ไม่ใส่เสื้อผ้ารัด ไม่ใช้สิ่งของเครื่องใช้ร่วมกับใคร และอาจทาแป้งเย็นเพื่อลดความอับชื้นได้ แต่ถ้าใช้ยาและรักษาความสะอาดแล้วยังไม่หาย ควรพบแพทย์เพื่อหาทางรักษาเพิ่มเติมต่อไป

รอยดำจากสังคังหายเองได้

            หลังจากที่ทายารักษาสังคังแล้ว บางคนอาจมีรอยดำเกิดขึ้น แต่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่านั่นคือเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ และจะหายไปเอง ยกเว้นว่ามีการเสียดสีเพิ่มเติม ก็อาจทำให้รอยหายช้า

“สังคัง” จะไม่ใช่โรคที่น่าอายอีกต่อไป ถ้าทุกคนเข้าใจและรับมือกับมันได้ถูกวิธี

Tags: